ภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 12 – 16 เมษายน 2564
ข้าวโพด : ราคาทรงตัว
เนื่องจากสัปดาห์นี้อยู่ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ราคาซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงาน อาหารสัตว์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ราคาหาบละ 561 บาท
ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 14 เมษายน 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 595.75 เซนต์/บุชเชล โดยราคาขยับตัวสูงขึ้นสูงสุดอีกครั้งในรอบหลายสัปดาห์ หลังจากที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) รายงานตัวเลขสต๊อกข้าวโพดฤดูกาล 2563/64 ลดลงจาก 1,502 ล้านบุชเชล มาอยู่ที่ 1,352 ล้านบุชเชล ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันก็ทำให้สต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วโลกถูกประเมินปรับลดลงไปอยู่ที่ 283.8 ล้านตัน ส่วนสภาพอากาศ ในพื้นที่บริเวณมิตเวสท์มีน้ำฝนลดลงและอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการเพาะปลูก
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 19.05 บาท โดยราคาค่าระวางเรือยังทรงตัวในระดับสูง และ ตู้คอนเทนเนอร์ยังคงขาดแคลน ส่วนสต๊อกกากถั่วเหลืองในแต่ละประเทศมีปริมาณค่อนข้างต่ำ ไม่สามารถทดแทนความต้องการใช้ ทั่วโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ ทำให้ราคาภาพรวมยังทรงตัวในระดับสูง
ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 14 เมษายน 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 1,411.75 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 398.0 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ราคายังคงทรงตัว โดยรายงานคาดการณ์ภาวะอุปสงค์-อุปทานสินค้าเกษตรโลก (WASDE) ฉบับเดือนเมษายน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสต๊อก ถั่วเหลืองจากเดือนที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 120 ล้านบบุชเชล ขณะที่ผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศแถบอเมริกาใต้มีการปรับเพิ่มขึ้น โดยในประเทศบราซิลเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจาก 134 ล้านตัน ทำสถิติสูงสุดไปอยู่ที่ 136 ล้านตัน ส่วนในประเทศอาร์เจนตินาถึงแม้ว่า จะมีความแห้งแล้ง แต่ตัวเลขคาดการณ์ผลผลิตยังคงเดิมที่ 47.5 ล้านตัน และปัจจุบันเกษตรกรได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตถั่วเหลืองฤดูกาล 2563/64 แล้ว
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
สถานการณ์ราคาปลาป่นในประเทศผู้ผลิตเปรูยังคงทรงตัว แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าปริมาณโควต้าการจับปลาที่ออกมาใหม่น่าจะสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ด้านผู้ซื้อหลัก อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน มีปริมาณการซื้อ หน้าท่าที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทรงตัวในระดับสูง
โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 51.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 38.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 36.20 บาท
ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 35.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 33.20 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาทรงตัว
เนื่องจากสัปดาห์นี้อยู่ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ตลาดซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาอยู่ที่ตันละ 520 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาอยู่ที่ตันละ 451 เหรียญสหรัฐฯ
ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,480 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,270 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
การบริโภคเนื้อไก่มีปัจจัยบวกจากช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ แต่ก็ยังมีปัจจัยลบจากการระบาดของไวรัสโควิด19 ส่งผลให้สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ประกาศราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 33 บาท
ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 11.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว
ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
การบริโภคไข่ไก่ในเดือนเมษายนลดน้อยลง เนื่องจากตรงกับช่วงปิดภาคเรียน ประกอบกับมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ทรงตัวที่ฟองละ 2.30 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว
สุกร : ราคายืนแข็ง
การบริโภคเนื้อสุกรยังดีอย่างต่อเนื่อง โดยเทศกาลสงกรานต์เป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการบริโภค แม้มาตรการป้องกัน โควิด19 จะมีการลดกิจกรรมไปส่วนหนึ่งก็ตาม ขณะที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ย้ำกับผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ถึงความเข้มงวด ในการเพิ่มความเข้มข้นของระบบ Biosecurity ของฟาร์ม เพื่อป้องกันโรค ASF ในระดับสูงสุด ขณะที่สภาพอากาศร้อนแล้งในช่วงนี้ เป็นปัจจัยที่กระทบต่อปริมาณผลผลิตสุกรที่จะออกสู่ตลาดแต่ไม่มากนัก โดยราคาประกาศสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม จากสมาคม ผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ณ วันพระที่ผ่านมา ยืนแข็งที่กิโลกรัมละ 80 บาท
ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 2,800 บาท (บวก/ลบ 80)
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง
ที่มา : สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)